Ads 468x60px

Featured Posts

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

โน๊ตบุ๊คเก่า ซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ หรือรอให้พังก่อนค่อยซื้อ

เป็นคำถามที่ หลายๆ คนมักจะเกิดอยู่ในหัวนะครับ จากที่เคยซื้อเจ้าโน๊ตบุ๊คมาใหม่ๆ อะไรก็ดีไปหมด ทั้งเรื่องความเร็ว ประสิทธิภาพการทำงาน และสภาพมันดูน่าใช้ไปหมด แต่พอนานเข้า (อายุโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่ ก่อนจะเก่า หรือมีอาการโน่นนี่นั่น มักจะอยู่ที่ 2 ปีขึ้นไปครับ) หรือเกินสองปีแล้ว ก็มักจะมีอาการเสียบ้าง usb เสียบไม่ติดบ้าง หรือไดร์ฟ dvd อ่านไม่ได้บ้าง ขึ้นอยู่การใช้งาน และดวงของเราครับ เมื่อเริ่มเกิดอาการเหล่านี้ขึ้น หลายต่อหลายคน คงต้องเอาไปซ่อมเป็นลำดับแรก แต่บางคนก็คิดว่าอยากได้ของใหม่ไปเลยน่าจะคุ้มกว่า บทความนี้เราจะมาแนะนำเรื่องเหล่านี้ล่ะครับ ว่าอาการไหนควรซ่อม อาการไหนควรซื้อใหม่เถอะ มาดูกันครับ!! เราจะมาพูดถึงทางออกในเรื่องนี้กัน 



ทางออกที่ 1 : ซ่อม แล้วใช้งานต่อ
เมื่อโน๊ตบุ๊คสุดที่รักเกิดอาการเสียมา ก็ต้องซ่อมจริงไหมครับ อย่างไรก็มักจะดีกว่า ต้องเสียเงินเป็นหมื่นๆ เพื่อซื้อเครื่องใหม่ๆ แน่นอนครับ โดยที่อาการเสียนั้น มีร้อยแปดพันอาการเลยครับ อาการซ่อมที่ดูแล้วคุ้มค่าน่าจะซ่อม ส่วนใหญ่ก็คือการเปลี่ยนอะไหล่เนี่ยล่ะ มีดังต่อไปนี้ครับ

  • คีย์บอร์ดกดไม่ติด - คีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คไม่ติด แม้จะเพียงบางปุ่มนั้น แต่ให้เข้าใจไว้เลยครับว่า ถ้าหากอยากเปลี่ยนคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คนั้น มันต้องเปลี่ยนทั้งแผงครับ ซึ่งแผงละประมาณ 1-2 พันแล้วแต่รุ่นและยี่ห้อครับ
  • Adaptor เสีย - สายชาร์จเสีย ก็มักพบบ่อยนะครับ เราสามารถไปหาซื้อได้ตามร้านอะไหล่หรือร้านซ่อมคอมทั่วๆ ไป (เทียบเท่า) ประมาณ 800-1,500 แล้วแต่รุ่นและยี่ห้อเช่นกันครับ
  • แบตเตอรี่เสื่อม - อาการยอดฮิตของคนใช้โน๊ตบุ๊คครับ หากเกิดอาการนี้ เราจำเป็นจะต้องใช้ Adaptor เสียบขณะใช้งานตลอด แต่ข้อเสียมันคือเราไม่สามารถพกพาไปข้างนอกได้เลยครับ การเปลี่ยนแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คนั้น เป็นอะไรที่ค่อนข้างหายากพอสมควรครับ ก็เพราะว่า เราจะต้องไปหา body ของแบตเตอรี่ที่มันตรงรุ่น และส่วนใหญ่มักจะหาไม่ค่อยเจอครับ ต้องโพสหา หรือว่าไปหาตามร้านอะไหล่ครับ เอาเป็นว่า ถ้าใครต้องใช้โน๊ตบุ๊คนอกสถานที่บ่อยๆ อาจซื้อใหม่จะคุ้มกว่าครับ
  • โน๊ตบุ๊ค ช้า... อืด มากๆ - เรื่องปัญหาโน๊ตบุ๊คอืดมากๆ นั้น ส่วนใหญ่เป็นกันทุกคน ทุกเครื่องที่ใช้ไปนานๆ แล้วครับ อย่าเพิ่งวู่วาม ลองเอาไปลง windows ใหม่ หรือล้างเครื่องก่อน ส่วนใหญ่มักจะหายครับผม อย่าลืม Backup ไฟล์สำคัญๆ ก่อนล้างล่ะ
  • เปิดเครื่องไฟติด แต่จอดับ - อาการนี้ลองเช็คสายพานโน๊ตบุ๊คดูครับ ลองเอาเข้าไปร้านซ่อมแล้วให้เค้าเช็คดู ส่วนใหญ่มักเป็นที่สายพาน ค่าเสียหายไม่กี่ตังครับ ซ่อมน่าจะคุ้มกว่า
  • จอเป็นเส้น / มี Dead Pixel หรือ Bright Pixel - อาการนี้ขึ้นอยู่กับเราแล้วละครับ ว่าทนใช้ต่อกับอาการนี้ได้ไหม ถ้าทนได้ก็ดีไป แต่หากรับไม่ได้ เปลี่ยนจอส่วนใหญ่มักจะแพงมากครับ อาจจะแพงเทียบเท่ากับมูลค่าโน๊ตบุ๊ค ของท่านในเวลานั้นเลย (หากเอาไปขายตามร้านรับซื้อโน๊ตบุ๊ค) ซึ่งดูแล้วไม่น่าคุ้ม ถ้าเกิดอาการนี้แล้วรับไม่ได้ แนะนำให้ซื้อใหม่ แล้วเก็บของเก่าไว้เป็นอะไหล่ครับ
ทางออกที่ 2 : ซื้อใหม่ไปเลย
ทางออกนี้สำหรับคนมีเงิน ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว ก็ซื้อใหม่ไปเลยครับ ตัวเก่า ก็เก็บเอาไว้เป็นอะไหล่ไปครับ หรือถ้ายังพอใช้ได้ก็ให้ลูกหลานเอาไว้เล่นเกมก็ได้ครับ โดยที่การซื้อใหม่ ก็ควรหาที่เหมาะสมกับตัวเองครับผม โดยการจัดการกับโน๊ตบุ๊คตัวเก่ายังมีอีกสองทางเลือกครับ
  • ตัวเก่าเอาไปขายซาก - เราสามารถเอาโน๊ตบุ๊คตัวเก่าๆ ที่เสียแล้วไปขายตามร้านซ่อมคอมทั่วๆ ไปหรือประกาศใน internet เพื่อนำไปขายซากได้นะครับ อย่างเช่นเอาไปลงเว็บ kaidee  ก็ได้ครับ หรือลองเอาไปโพสใน facebook ตามกลุ่มซื้อขายโน๊ตบุ๊คต่างๆ ก็มีให้เลือกเยอะแยะครับ เงินที่ได้มาก็เก็บไว้เป็นค่าขนมครับ เพราะมันไม่ได้มากมายเท่าไร สำหรับโน๊ตบุ๊คตีซาก
  • ซ่อมตัวเก่าก่อน แล้วค่อยเอาไปขายมือสอง - ทางเลือกนี้ ดูภาพแล้วดูดีที่สุดนะครับ หากอาการเสียของโน๊ตบุ๊คเรานั้น เป็นอาการซ่อมตามที่ผมได้กล่าวมาด้านบน ที่ดูแล้วคุ้ม (ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่อาการที่ต้องเปลี่ยนจอภาพ) แล้วจึงเอาไปขายตามเฟส หรือเว็บ/เฟส จำนำทูโก ก็ได้ครับผม แล้วเอาเงินที่ได้นั้น ไปออกตัวใหม่ครับ ทุ่นเงินได้เยอะ
สรุปนะครับ การตัดสินใจว่า จะซ่อม หรือซื้อใหม่ดี ขั้นแรกเราควรดุเงินในกระเป๋าเราก่อนครับว่าพร้อมไหม หากไม่พร้อม ก็คงต้องเอาไปซ่อมแล้วใช้ต่อ หรือซ่อม แล้วค่อยไปขาย เอาเงินไปถอยเครื่องใหม่นั่นเองครับ.....



วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559

คลายข้อสงสัยใช้ notebook หรือ ipad ดี

ก่อนจะเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คมาใช้ทำงาน หรือมาใช้ทางด้านเรื่องบันเทิง เคยลองถามตัวเองไหมครับว่า เราจะใช้แทปเลต หรือจะซื้อ notebook ดี เพื่อเป็นการแนะนำลองอ่านบทความนี้กันดูครับ

ก่อนอื่นเราต้องถามตัวเองก่อนว่าจะซื้อมาใช้งานด้านใดบ้าง ซึ่งคนเราย่อมมีจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน แบ่งเป็นหลักๆ 3 อย่างดังนี้ครับ




1. งานด้าน internet

หากเป็นงานทีต้องใช้ internet เป็นหลัก เช่นพวกขายของผ่านเน็ต หรือชอบเล่นเฟส เล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ นั้น โดยที่แทบจะไม่ได้ใช้งานพิมพ์เป็นหลัก ก็แนะนำไปเลยว่า แทปเลตอย่าง ipad หรือ samsung galaxy tab นั้นดูจะเหมาะกว่าครับ


2. งานด้านเอกสาร งานพิมพ์ หรือเกมหนักๆ

หากใครที่ต้องการเอาไปทำงานด้านเอกสาร หรืองานพิมพ์เสียเป็นส่วนใหญ่นั้น พวก tablet อย่าง ipad ไม่เหมาะแน่นอนครับ เพราะว่ายังมีความจำเป็นต้องใช้keyboard แบบ full ที่ไม่ใช่ visual keyboard ครับ ควรจะใช้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คมากกว่านะครับ




3. งานเฉพาะด้าน

สำหรับท่านที่ต้องการใช้งานเฉพาะด้านเช่น งานทางด้านวิศวกรรมหรือสถาปนิกอย่าง Autocad หรืองานทางด้านกราฟฟิกนั้น ก็เล็งไปที่ notebook เลยครับ แทปเล็ตมันใช้งานไมไ่ด้ทุกประการทั้งปวงครับ

แต่จะมีโน๊ตบุ๊คแบบนึงครับ ที่ใช้งานได้ทั้งสองอย่างรวมกันครับ คือโน๊ตบุ๊คพวก hybrid อย่างพวก Surface pro อะไรพวกนี้ครับ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งแทปเล็ต และโน๊ตบุ๊คได้ในเครื่องเดียวครับ ซึ่งที่บอกว่ารวมกันสองอย่าง แต่ไม่ดีสุดซักอย่างครับ อาจจะใช้กับงานที่ไม่ค่อยหนักมากครับผม


ภาพ ipadmini4 credit : http://jumnum2go.com/item.php?iditem=tb060716

ตอนนี้ผมจะให้คะแนนเฉพาะด้านนะครับ

  • แทปเล็ต (3/3) หากเอามาใช้งานด้าน internet หรือโซเชียล เกมมือถือ
  • โน๊ตบุ๊ค (3/3) งานเอกสาร , เล่นเกม , งานเฉพาะด้าน
  • Hybrid Notebook (1.5/3) ใช้งานได้แทบทุกด้านครับ แต่ไม่สุดสักอย่าง

สุดท้ายนี้ก็ลอง ถามตัวเองดูก่อนครับว่า เราต้องการใช้งานด้านไหนเป็นหลัก เพราะผมเชื่อว่าทุกคนก็คงอยากถืออุปกรณ์ไอทีพกไปไหนต่อไหนเพียงเครื่องเดียวครับ และดูงบในกระเป๋าด้วยครับ จัดให้ตรงรุ่น ตรงงบ ชีวิตสดใสครับ

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

หากเอาบัตรเครดิต ไปกดเงินสดได้ไหม

บัตรเครดิตต่างๆ เค้ามีไว้รูดซื้อของ


ใครเดือนร้อนเงิน หรือต้องการเงินด่วน ตามที่บอกนะครับ สามารถ เข้าไปใช้บริการรับจำนำกับเราได้ทุกวัน ตามเวลาที่กำหนดนะครับ แต่อาจมีบางคนสงสัยครับ ว่าหากเค้ามีบัตรเครดิตอยู่กับตัว ทำไมถึงไม่รูดเงินสดออกมา จะมาจำนำให้เสียของทำไม บทความนี้จะเล่าข้อเสียของการนำบัตรเครดิตไปกดออกมาเป็นเงินสดให้ฟังกันครับผม

บัตรเครดิตนั้น ดอกเบี้ยจะแพงกว่าบัตรเงินสด ครับ แต่ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นบัตร "เครดิต" ซึ่งหากใครอยากให้เงินสด แนะนำให้นำบัตรเงินสดไปกดดีกว่าครับ ดอกเบี้ยบัตรเงินสดนั้นจะอยู่ประมาณ 28% ต่อปี ซึงดอกจะคิดเป็นรายวัน เหมาะสำหรับการใช้เงินในระยะสั้นๆ สามารถลดต้นลดดอกได้ หากนำเงินบางส่วนมาโปะครับ

เครดิตภาพ : http://www.signspecialist.com/


ส่วนบัตรเครดิตจะมีดอกเบี้ยต่อปีน้อยกว่าบัตรเงินสดครับ น่าจะประมาณ 20 กว่าๆ เปอร์เซนต์ต่อปีเท่านั้นเอง เหมาะสำหรับนำไปใช้รูดซื้อสินค้า หรือรูดซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระพวก 0% 10 เดือนอะไรทำนองนี้ครับ แต่บางคนเอามาใช้ผิดวิธี นำมาใ่ช้กดเงินสดซะอย่างนั้นข้อเสียของมันนะครับ บอกคร่าวๆ นะครับ อันที่จริงมีโน่นนี่รายละเอียดอีกเยอะ แต่ก็พยามจะบอกให้เข้าใจครับ



หากคุณเอาบัตรเครดิตไปกดเงินสดมา 10000 บาทนะครับ
(หากจ่ายสิ้นเดือนหมดก็ยังพอโอเคครับ กรณีนี้คือจ่ายไม่หมด หรือจ่ายขั้นต่ำครับ)

  • ขั้นแรกเลยคุณจะเสียค่าธรรมเนียมก่อน 3% ซึ่ง ณ ที่นี้ก็คือ 300 บาท
  • สิ้นเดือนมา มีเงินแค่ 5000 คุณก็จ่ายไป 5000+ดอก+ค่าธรรมเนียม300 แล้วทีนี้คงคิดว่ายอดจะเหลือ 5000 แต่ไม่ใช่นะครับ เดือนหน้านั้น ธนาคารจะคิดดอกที่เงินต้น 10000 บาทที่เราชำระไปครับ
  • พอเดือนต่อมาบิลเรียกเก็บ จะเรียกเก็บ 5000(เงินต้นที่เหลือ) + ดอกเบี้ย(คิดจาก10000) ไปเรื่อยๆ จนกว่าเราจะปิดยอดเป็น 0 ครับ
  • ซึ่งระหว่างนั้น ถ้ามีการรูดเพิ่ม ต้นก็เพิ่มเข้าไปอีกครับ ดอกบานเบอะ แน่นอน
นี่คือตัวอย่างที่กรณี คนรู้จักเจอมาครับ ท้ายสุดก็เป็น Backlist บัตรเครดิต เพราะผ่อนชำระตามไม่ไหว ดังนั้นแล้ว หากใครที่ยังคิดจะเอาเงินสดจากบัตรเครดิต ลองคิดกันดูดีๆ ครับพิจราณาให้ถี่ถ้วนนะครับ ว่าเราสามารถจ่ายชำระภายในเดือนนั้นไหวไหม ทางที่ดี เอาบัตรเงินสดไปกดกันเถอะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559

วิธีการบอกเสปกสินค้า ก่อนการจำนำ

เมื่อต้องการจำนำกับเรา notebookbangna ก็ลองโทรศัพท์เข้ามาสอบถามราคาก่อนเข้ามาหาเราได้ครับ หากใครต้องการติดต่อเรา คลิกที่นี่ เลยครับ

และเมื่อโทรคุยกัน รบกวนลูกค้าบอกเสปกของสินค้ามาคร่าวๆ ด้วยนะครับ ทางเราจะได้บอกช่วงราคา ของสินค้ามาให้คร่าวๆ ให้ลูกค้าทราบว่า ok ไหม การบอกเสปกของสินค้านั้นแบ่งแยกตามประเภทนะครับ

สินค้าประเภท โน๊ตบุ๊ค
หากต้องการจำนำสินค้าประเภทโน๊ตบุ๊ค ควรจะบอกรายละเอียดเราดังนี้

  • ตำหนิของโน๊ตบุ๊คมีตรงไหน บอกได้ตามจริงเลยครับ
  • ยี่ห้อ และ Model เช่น Acer e5-321
  • เสปก cpu เช่น core i3, AMD, pantium เป็นต้น ดูได้ตามสติกเกอร์ครับ
  • ยังมีประกันศูนย์เหลืออยู่ไหม? หากมีรบกวนแจ้งด้วยครับ
  • จำนวนเงินที่ลูกค้าต้องการ (ถ้าสามารถบอกได้)
  • อุปกรณ์ทั้งหมด ที่มีมา เช่น ที่ชาร์จ กระเป๋า กล่อง ใบเสร็จต่างๆ

สินค้าประเภทมือถือ
หากต้องการจำนำสินค้าประเภทมือถือนั้น ควรจะบอกรายละเอียดเราดังนี้
  • ยี่ห้อ เช่น iphone , samsung
  • รุ่นมือถือ เช่น 5s,6,6s plus , Galaxy note5, S6 edge เป็นต้น
  • ประกันศูนย์ มีไหม หากมีให้แจ้งด้วยครับ
  • สภาพสินค้าโดยรวมเป็นอย่างไร
  • อุปกรณ์มีอะไรบ้าง
  • จำนวนเงินที่ต้องการ หากบอกได้

สินค้าประเภทแทปเลต / Tablet
หากต้องการจำนำสินค้าประเภท Tablet ควรจะแจ้งให้ทราบด้วยดังนี้
  • บอกรายละเอียดเครื่องเช่น ipad,samsung tab, tabs
  • ประกันศูนย์
  • สภาพสินค้า
  • อุปกรณ์
  • จำนวนเงินที่ต้องการ

สินค้าประเภทกล้อง DSLR
หากต้องการจำนำสินค้ากล้อง เรารับแต่กล้อง DSLR นะครับ
กล้อง DSLR นั้นก็จะเป็นประเภทกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ โดยที่สินค้าประเภทกล้องนั้น
สามารถโทรคุยกันได้เลยเพียงบอกแค่ชื่อรุ่นครับ

เมื่อโทรคุยกันเสร็จแล้วก็เข้ามาร้านได้เลยครับ เข้ามาไม่เกิน 15 นาที รับเงินกลับบ้านไปเต็มจำนวนแล้วครับผม

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

iphone SE เริ่มวางขายในต่างประเทศแล้วนะครับ ท่านผู้ชม




แอปเปิล ประกาศประเทศที่พร้อมวางจำหน่ายไอโฟน เอสอี เป็นลอตแรกและลอตสองรวม 58 ประเทศ เริ่มขายตั้งแต่ 31 มีนาคมนี้ ตามติดด้วยช่วงต้นเมษายน…

เพิ่งเปิดตัวสู่สายตาชาวโลกอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 22 มี.ค. (ตามเวลาประเทศไทย) สำหรับสมาร์ทโฟนน้องใหม่ค่ายแอปเปิลอย่าง "ไอโฟน เอสอี" (iPhone SE) ซึ่งสเปกจะไม่ได้มีลูกเล่นหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่เข้ามา แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่าไอโฟนรุ่นก่อนๆ ในระดับ 13,000-14,000 บาท ทำให้แฟนแอปเปิลจำนวนไม่น้อยแสดงความสนใจไอโฟนรุ่นเล็กกับหน้าจอ 4 นิ้ว นี้ทันที!

และเหมือนว่า "แอปเปิล" จะรู้ใจ จึงได้รีบประกาศกลุ่มประเทศที่จะวางจำหน่ายไอโฟน เอสอี ลอตที่ 1 และลอตที่ 2 ออกมาแล้ว โดยในลอตแรกนั้น จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 31 มี.ค.นี้แล้ว หลังจากเปิดให้จองซื้อไปตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. ส่วนลอตที่ 2 จะเริ่มจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเม.ย.

สำหรับประเทศที่จะได้จำหน่ายไอโฟน เอสอี เป็นกลุ่มแรก ได้แก่ ออสเตรเลีย, แคนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, เปอโตริโก, สิงคโปร์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

ส่วนประเทศกลุ่มที่ 2 ที่ได้สิทธิ์จำหน่ายไอโฟน เอสอี ได้แก่ แอลบาเนีย, อันดอร์รา, ออสเตรีย, บาห์เรน, เบลเยียม, บอสเนีย, บัลแกเรีย, โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, กรีซ, เกิร์นซีย์, เจอร์ซีย์, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, อินเดีย, ไอร์แลนด์, เกาะแมน, อิตาลี, โคโซโว, คูเวต, ลัตเวีย, ลิกเตนสไตน์, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, มาซิโดเนีย, หมู่เกาะมัลดีฟส์, มอลตา, โมนาโก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, โรมาเนีย, รัสเซีย, ซาอุดีอาระเบีย, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, ตุรกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

คุณสังเกตเห็นอะไรจากรายชื่อ 58 ประเทศเหล่านี้หรือไม่? ยังไม่มีชื่อประเทศไทยติดโผนั่นเอง งานนี้ยืนยันได้แน่นอนว่า แฟนๆ ชาวไทยรอกันไปก่อน...!!!

ที่มา : ไทยรัฐ

วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559

รีวิว Acer Aspire S7

ขอแนะนำโน๊ตบุ๊คมาใหม่ Acer Aspire S7 เป็นโน๊ตบุ๊คตระกูล Acer แบบ Ultrabook แบบสลิมไซส์ มีทั้งหน่วยประมวลผล

  • Intel Core i5
  • Intel Core i7

สามารถปรับระดับหน้าจอได้ถึง 180 องศา หน้าจอสัมผัส Touch Screen รายละเอียดหน้าจอ Full HD
แบตเตอรี่อึดทนนาน ระดับห้าชั่วโมงอัพเลยครับ ความน่าสนใจของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ คือเป็นตัว Acer ระดับ Ultrabook ครับ ซึ่งในเว็บไซต์ Techspot.com ได้ให้คะแนนที่สูงถึง 78 คะแนน เลยทีเดียว

ซึ่งเหล่าบรรดาเกจินั้นได้ให้ข้อดีข้อเสียไว้ดังนี้ครับ



ข้อดีของโน๊ตบุ๊ค Acer Aspire S7

  • สวยงาม ดูดี สมเป็นโน๊ตบุ๊คระดับ Ultrabook
  • มีประสิทธิภาพสูงมาก
  • แบตเตอรี่อยู่ได้นาน
  • จอทัชสกรีนแบบ High-resolution
  • เบาบาง สะดวกต่อการพกพา
  • เครื่องไม่ร้อนไว


ข้อเสียของ Acer Aspire S7

  • แพงสิครับ ตัว corei7 ปาเข้าไปหกหมื่นบาท!!!
  • ทัชแพดยังไม่ค่อยตามมือเท่าที่ควร
  • ความยาวนานของแบตเรียกได้ว่า ยังไม่เท่าไรสำหรับโน๊ตบุ๊คระดับนี้
  • Port การใช้งานไม่เยอะ



วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Samsung Galaxy A5 ต้อนรับปี 2558

Samsung Galaxy A5 ต้อนรับปี 2558

ก่อนหน้านี้ทางซัมซุง ประเทศไทย มีแคมเปญกิจกรรม ทายราคาของ Samsung Galaxy A5 ให้ถูก ลุ้นรับ Samsung Galaxy A5 ไปใช้งานฟรีๆ ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมนี้ไปแล้ว ก็มีผู้ตอบคำถามถูก 5 ท่าน ได้รับ Samsung Galaxy A5 ฟรีไปเลย น่าอิจฉามากๆ ครับ รายชื่อมี

คุณภัคพร 
คุณวิทนีพร 
คุณธีรโรจน์ 
คุณกนกพร 
คุณวิทวัส


Samsung Galaxy A5 เอาใจสาวก Android


และภายหลังได้เคาะราคาเฉลยกันอยู่ที่ 12,900.- บาทครับผม และจะจัดวางจำหน่ายบ้านเราเดือนมกราคม 2558 นี้เองครับ  ซึ่งจะจำหน่ายสีดำ และสีขาวก่อน ส่วนสีทองคาดว่า เป็นกลไกการตลาด จะนำมาขายภายหลังครับผม

Samsung Galaxy A5 หน้าจอกว้าง 5 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 720p, หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.2 GHz, RAM 2 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB, กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล, กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ขนาด 2300 mAh และรัน Android 4.4 (KitKat)