Ads 468x60px

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

โน๊ตบุ๊คเก่า ซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ หรือรอให้พังก่อนค่อยซื้อ

เป็นคำถามที่ หลายๆ คนมักจะเกิดอยู่ในหัวนะครับ จากที่เคยซื้อเจ้าโน๊ตบุ๊คมาใหม่ๆ อะไรก็ดีไปหมด ทั้งเรื่องความเร็ว ประสิทธิภาพการทำงาน และสภาพมันดูน่าใช้ไปหมด แต่พอนานเข้า (อายุโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่ ก่อนจะเก่า หรือมีอาการโน่นนี่นั่น มักจะอยู่ที่ 2 ปีขึ้นไปครับ) หรือเกินสองปีแล้ว ก็มักจะมีอาการเสียบ้าง usb เสียบไม่ติดบ้าง หรือไดร์ฟ dvd อ่านไม่ได้บ้าง ขึ้นอยู่การใช้งาน และดวงของเราครับ เมื่อเริ่มเกิดอาการเหล่านี้ขึ้น หลายต่อหลายคน คงต้องเอาไปซ่อมเป็นลำดับแรก แต่บางคนก็คิดว่าอยากได้ของใหม่ไปเลยน่าจะคุ้มกว่า บทความนี้เราจะมาแนะนำเรื่องเหล่านี้ล่ะครับ ว่าอาการไหนควรซ่อม อาการไหนควรซื้อใหม่เถอะ มาดูกันครับ!! เราจะมาพูดถึงทางออกในเรื่องนี้กัน 



ทางออกที่ 1 : ซ่อม แล้วใช้งานต่อ
เมื่อโน๊ตบุ๊คสุดที่รักเกิดอาการเสียมา ก็ต้องซ่อมจริงไหมครับ อย่างไรก็มักจะดีกว่า ต้องเสียเงินเป็นหมื่นๆ เพื่อซื้อเครื่องใหม่ๆ แน่นอนครับ โดยที่อาการเสียนั้น มีร้อยแปดพันอาการเลยครับ อาการซ่อมที่ดูแล้วคุ้มค่าน่าจะซ่อม ส่วนใหญ่ก็คือการเปลี่ยนอะไหล่เนี่ยล่ะ มีดังต่อไปนี้ครับ

  • คีย์บอร์ดกดไม่ติด - คีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คไม่ติด แม้จะเพียงบางปุ่มนั้น แต่ให้เข้าใจไว้เลยครับว่า ถ้าหากอยากเปลี่ยนคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คนั้น มันต้องเปลี่ยนทั้งแผงครับ ซึ่งแผงละประมาณ 1-2 พันแล้วแต่รุ่นและยี่ห้อครับ
  • Adaptor เสีย - สายชาร์จเสีย ก็มักพบบ่อยนะครับ เราสามารถไปหาซื้อได้ตามร้านอะไหล่หรือร้านซ่อมคอมทั่วๆ ไป (เทียบเท่า) ประมาณ 800-1,500 แล้วแต่รุ่นและยี่ห้อเช่นกันครับ
  • แบตเตอรี่เสื่อม - อาการยอดฮิตของคนใช้โน๊ตบุ๊คครับ หากเกิดอาการนี้ เราจำเป็นจะต้องใช้ Adaptor เสียบขณะใช้งานตลอด แต่ข้อเสียมันคือเราไม่สามารถพกพาไปข้างนอกได้เลยครับ การเปลี่ยนแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คนั้น เป็นอะไรที่ค่อนข้างหายากพอสมควรครับ ก็เพราะว่า เราจะต้องไปหา body ของแบตเตอรี่ที่มันตรงรุ่น และส่วนใหญ่มักจะหาไม่ค่อยเจอครับ ต้องโพสหา หรือว่าไปหาตามร้านอะไหล่ครับ เอาเป็นว่า ถ้าใครต้องใช้โน๊ตบุ๊คนอกสถานที่บ่อยๆ อาจซื้อใหม่จะคุ้มกว่าครับ
  • โน๊ตบุ๊ค ช้า... อืด มากๆ - เรื่องปัญหาโน๊ตบุ๊คอืดมากๆ นั้น ส่วนใหญ่เป็นกันทุกคน ทุกเครื่องที่ใช้ไปนานๆ แล้วครับ อย่าเพิ่งวู่วาม ลองเอาไปลง windows ใหม่ หรือล้างเครื่องก่อน ส่วนใหญ่มักจะหายครับผม อย่าลืม Backup ไฟล์สำคัญๆ ก่อนล้างล่ะ
  • เปิดเครื่องไฟติด แต่จอดับ - อาการนี้ลองเช็คสายพานโน๊ตบุ๊คดูครับ ลองเอาเข้าไปร้านซ่อมแล้วให้เค้าเช็คดู ส่วนใหญ่มักเป็นที่สายพาน ค่าเสียหายไม่กี่ตังครับ ซ่อมน่าจะคุ้มกว่า
  • จอเป็นเส้น / มี Dead Pixel หรือ Bright Pixel - อาการนี้ขึ้นอยู่กับเราแล้วละครับ ว่าทนใช้ต่อกับอาการนี้ได้ไหม ถ้าทนได้ก็ดีไป แต่หากรับไม่ได้ เปลี่ยนจอส่วนใหญ่มักจะแพงมากครับ อาจจะแพงเทียบเท่ากับมูลค่าโน๊ตบุ๊ค ของท่านในเวลานั้นเลย (หากเอาไปขายตามร้านรับซื้อโน๊ตบุ๊ค) ซึ่งดูแล้วไม่น่าคุ้ม ถ้าเกิดอาการนี้แล้วรับไม่ได้ แนะนำให้ซื้อใหม่ แล้วเก็บของเก่าไว้เป็นอะไหล่ครับ
ทางออกที่ 2 : ซื้อใหม่ไปเลย
ทางออกนี้สำหรับคนมีเงิน ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว ก็ซื้อใหม่ไปเลยครับ ตัวเก่า ก็เก็บเอาไว้เป็นอะไหล่ไปครับ หรือถ้ายังพอใช้ได้ก็ให้ลูกหลานเอาไว้เล่นเกมก็ได้ครับ โดยที่การซื้อใหม่ ก็ควรหาที่เหมาะสมกับตัวเองครับผม โดยการจัดการกับโน๊ตบุ๊คตัวเก่ายังมีอีกสองทางเลือกครับ
  • ตัวเก่าเอาไปขายซาก - เราสามารถเอาโน๊ตบุ๊คตัวเก่าๆ ที่เสียแล้วไปขายตามร้านซ่อมคอมทั่วๆ ไปหรือประกาศใน internet เพื่อนำไปขายซากได้นะครับ อย่างเช่นเอาไปลงเว็บ kaidee  ก็ได้ครับ หรือลองเอาไปโพสใน facebook ตามกลุ่มซื้อขายโน๊ตบุ๊คต่างๆ ก็มีให้เลือกเยอะแยะครับ เงินที่ได้มาก็เก็บไว้เป็นค่าขนมครับ เพราะมันไม่ได้มากมายเท่าไร สำหรับโน๊ตบุ๊คตีซาก
  • ซ่อมตัวเก่าก่อน แล้วค่อยเอาไปขายมือสอง - ทางเลือกนี้ ดูภาพแล้วดูดีที่สุดนะครับ หากอาการเสียของโน๊ตบุ๊คเรานั้น เป็นอาการซ่อมตามที่ผมได้กล่าวมาด้านบน ที่ดูแล้วคุ้ม (ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่อาการที่ต้องเปลี่ยนจอภาพ) แล้วจึงเอาไปขายตามเฟส หรือเว็บ/เฟส จำนำทูโก ก็ได้ครับผม แล้วเอาเงินที่ได้นั้น ไปออกตัวใหม่ครับ ทุ่นเงินได้เยอะ
สรุปนะครับ การตัดสินใจว่า จะซ่อม หรือซื้อใหม่ดี ขั้นแรกเราควรดุเงินในกระเป๋าเราก่อนครับว่าพร้อมไหม หากไม่พร้อม ก็คงต้องเอาไปซ่อมแล้วใช้ต่อ หรือซ่อม แล้วค่อยไปขาย เอาเงินไปถอยเครื่องใหม่นั่นเองครับ.....